Deprecated: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; plgContentGoogleCalendar has a deprecated constructor in /var/www/vhosts/accident.or.th/domains/accident.or.th/public_html/plugins/content/googlecalendar/googlecalendar.php on line 24
เขียนโดย Super User

       สคอ.เดินสายรณรงค์ มอบ 4 ความห่วงใยสร้างความปลอดภัย ฉลองปีใหม่ 2563 (วันที่ 20 ธ.ค.62) นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) นำทีมรณรงค์พบบรรณาธิการข่าวและสื่อมวลชน ได้แก่ NBT, วิทยุกรมประชาสัมพันธ์,ช่อง 5 ,ช่อง 8, Thai PBS และนสพ.บ้านเมือง เพื่อร่วมเผยแพร่ข้อมูล สร้างกระแสความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 นายพรหมมินทร์ กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่ 2563 รัฐบาลได้กำหนดให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน คือ ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2562- 2 มกราคม 2563 รวมระยะเวลา 7 วัน ซึ่งหลายหน่วยงานมีมาตรการบังคับกฎหมายเข้มทั้งเรื่องควบคุมการดื่ม และควบคุมเร็ว ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้านการจรจาจรแก่ประชาชนในทุกเส้นทาง เพราะเป็นช่วงเวลาที่รถมีปริมาณรถบนท้องถนนมีค่อนข้างมากกว่าช่วงเวลาปกติ การเกิดอุบติเหตุทางถนนมีความเสี่ยงสูง ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ “ ทุกคนต่างมุ่งหวังที่จะใช้ช่วงเวลาปีใหม่นี้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปเฉลิมฉลองกับครอบครัว คนที่รัก หลายคนเตรียมของขวัญ ของฝากที่พิเศษกว่าทุกครั้ง เพื่อมอบให้ ลูก พ่อ-แม่ หรือคนรักที่รออยู่ ซึ่งคนที่รออยู่ปลายทางต่างเฝ้ารออย่างใจจดจ่อว่าเมื่อไหร่คนที่รอนั้นจะกลับมาถึงบ้านเสียที บางคนโชคดีได้กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่ก็ยังมีหลายครอบครัวที่กลับไม่ถึงบ้าน เพราะความประมาท ขาดสติ คิดว่าไม่เป็นไร ดื่มแล้วขับ ขับเร็ว จนทำให้เมื่อเกิดอุบติเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สร้างความสูญเสียหาสิ่งใดมาทดแทนย่อมไม่ได้” นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า อยากเชิญชวนให้ทุกคนร่วมลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ โดย 1. ดื่มไม่ขับ เพราะปริมาณแอลกอฮอล์ 50-100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เท่ากับเบียร์ 1-2 กระป๋อง ทำให้ตัดสินใจช้าลง 1 วินาที สายตาพร่ามัว ทัศนวิสัยการมองลดลง หากถูกจับมีอัตราโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล 2.ลดเร็วลดเสี่ยง รถยนต์ที่ขับด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. มีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 60% 3.สวมหมวกนิรภัย ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ 39% ลดการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ 58% และ 4.คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตลงได้ถึง 60% ท้ายสุดนี้ ขอให้ผู้เดินทางกลับบ้านช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ตรวจสภาพรถและคนขับให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ ตรวจสอบเส้นทางให้ดี เพื่อให้การกลับบ้านอย่างปลอดภัยของทุกท่าน คือของขวัญที่ดีที่สุดของคนที่เฝ้ารอ

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

      FM 87.5 mhz “บ้านสุขภาพ” ร่วมรณรงค์ปีใหม่กลับบ้านปลอดภัย (วันที่ 21 ธ.ค.62) รายการวิทยุ"บ้านสุขภาพ" สถานีวิทยุรัฐสภา FM 87.5 mhz. พร้อมสถานีเครือข่าย 14 สถานีทั่วประทศ ดำเนินรายการโดยคุณณิษาพัชร์ ประสงค์มงคล ร่วมรณรงค์สร้างกระแสกลับบ้านปลอดภัยเผยแพร่ข้อมลข่าว “ กลับบ้านปลอดภัย คือของขวัญที่ดีที่สุด” ปีใหม่ 2563 โดยมีนายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ร่วมรายการสด เวลา 09.15-10.00น. ทั้งนี้ สคอ.ได้นำสื่อรณรงค์ ป้ายตั้งโต๊ะและเสื้อยืด มอบในรายการเพื่อเชิญชวนผู้ฟังร่วมเสนอความคิดเห็น ข้อแนะนำเกี่ยวกับการเฝ้าระวังและป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ของตนเองอีกด้วย ณ สถานีวิทยุรัฐสภา ถ.พระราม 6 แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

      เมื่อ วันที่ 24 ธค 62 - นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) นำทีมรณรงค์พบบรรณาธิการข่าวและสื่อมวลชน ได้แก่ ช่อง 7 ช่อง 9 นสพ.เดลินิวส์ pptv นสพ.ไทยรัฐ ไทยรัฐออนไลน์ มติชน ข่าวสด โดย สคอ. ได้ชวนสื่อออกโรงเตือนกลับบ้านปีใหม่ ดื่มไม่ขับ- ลดเร็ว-พักผ่อนเพียงพอ ป้องกันวูบหลับใน ลดความเสี่ยง ลดความสูญเสียช่วงเทศกาล นอกจากนี้การเดินทางต้องเตรียมพร้อมร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากต้องขับรถทางไกล อาจทำให้เกิดการวูบหลับในขณะขับรถได้ ซึ่งควรสังเกตุอาการของสัญญาณเตือนหลับใน ได้แก่ หาวบ่อยและต่อเนื่อง กระพริบตาถี่ มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจร ใจลอยไม่มีสมาธิ รู้สึกหนักศีรษะ หงุดหงิด กระวนกระวาย ขับรถส่ายไปมาหรือออกนอกเส้นทาง จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมา การป้องกันคือ นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ 7-9 ชั่วโมง อย่างน้อย 2 คืนก่อนวันเดินทาง ถ้าเกิดการง่วงให้นอนจอดพัก 15-20 นาที ทานอาหารแต่พอดีอย่าอิ่มเกินไป เพราะจะทำให้ง่วงได้ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเดินทางไม่ควรกินยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม จิบน้ำบ่อย ๆ อย่าให้ขาดน้ำ เพราะการขาดน้ำจะทำให้อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าง่าย ท้ายสุดนี้ ขอให้ทุกคนตรวจสภาพรถและคนขับให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันการหลับใน ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ และควรมีเบอร์ฉุกเฉินเพื่อใช้ติดต่อเมื่อเกิดเหตุ คือ 1669 การแพทย์ฉุกเฉิน 191 แจ้งเหตุด่วน-เหตุร้าย(ตำรวจ) 1115 ตำรวจท่องเที่ยว 1146 กรมทางหลวง 1197 ข้อมูลการจราจร 1543 อุบัติเหตุบนทางด่วน เป็นต้น เพื่อให้การกลับบ้านอย่างปลอดภัย คือของขวัญที่ดีที่สุด ของทุกคน ...

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

       เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.62) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) นำทีมโดย นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบติเหตุ พร้อมคณะรณรงค์ ร่วมสร้างความตระหนักขับขี่ปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดยคุณธารินี ปานเขียว ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กรและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เน้นขับขี่หรือซ้อนท้ายทุกครั้ง ต้องใส่หมวกกันน๊อค เพื่อลดการบาดเจ็บ ลดแรงกระแทกที่บริเวณศีรษะได้เมื่อเกิดเหตุ เพราะการสวมหมวกนิรภัยสามารถลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ถึง 39% ทั้งนี้จากการสอบถามพบว่าส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกเพราะเหตุผลที่ว่า" ใกล้แค่นี้เอง" จึงได้เชิญชวนให้เห็นถึงความสำคัญของการใส่หมวกกันน๊อค กิจกรรมรณรงค์จัดขึ้น ณ บริเวณซอยคู้บอน 27 แขวง รามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

         วันที่ 25 ธค 62 - นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) นำทีมรณรงค์พบบรรณาธิการข่าวและสื่อมวลชน ได้แก่ TNN 24,ช่อง 3,ช่อง one ,เจริญเคเบิ้ลทีวี,เนชั่นและ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ทั้งนี้ สคอ. ได้ชวนสื่อร่วมเผยแพร่ข้อมูล สร้างความตระหนัก เพื่อลดความเสี่ยง โดย 1. ดื่มไม่ขับ เพราะปริมาณแอลกอฮอล์ 50-100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เท่ากับเบียร์ 1-2 กระป๋อง ทำให้ตัดสินใจช้าลง 1 วินาที สายตาพร่ามัว ทัศนวิสัยการมองลดลง หากถูกจับมีอัตราโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล 2. ลดเร็วลดเสี่ยง รถยนต์ที่ขับด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. มีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 60% 3.สวมหมวกนิรภัย ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ 39% ลดการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ 58% และ 4.คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตลงได้ถึง 60% ท้ายสุดนี้ ขอให้ทุกคนตรวจสภาพรถและคนขับให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันการหลับใน ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ และควรมีเบอร์ฉุกเฉินเพื่อใช้ติดต่อเมื่อเกิดเหตุ คือ 1669 การแพทย์ฉุกเฉิน 191 แจ้งเหตุด่วน-เหตุร้าย(ตำรวจ) 1115 ตำรวจท่องเที่ยว 1146 กรมทางหลวง 1197 ข้อมูลการจราจร 1543 อุบัติเหตุบนทางด่วน เป็นต้น เพื่อให้การกลับบ้านอย่างปลอดภัย คือของขวัญที่ดีที่สุด ของทุกคน ...

0
0
0
s2smodern