Deprecated: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; plgContentGoogleCalendar has a deprecated constructor in /var/www/vhosts/accident.or.th/domains/accident.or.th/public_html/plugins/content/googlecalendar/googlecalendar.php on line 24
เขียนโดย Super User

เครือข่ายลดอุบัติเหตุ เตือนระวังอุบัติเหตุพุ่งวันหยุดยาว ชี้ประชาชนอยากท่องเที่ยว-สังสรรค์-กลับบ้าน

หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย หวั่นอุบติเหตุสูงจากดื่มแล้วขับ

แนะงดเหล้า-ลดอุบัติเหตุช่วงเข้าพรรษา เริ่มต้นชีวิตใหม่

       เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 63 นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ แต่ทุกคนก็ให้ความร่วมฝ่าฟันจนพ้นวิกฤติมาได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายบางมาตรการเพื่อให้ใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ให้ประมาท ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งอีกไม่กี่วันนี้ก็จะเป็นวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 4 วัน (วันที่ 4-7 ก.ค.63) เป็นเทศกาลสำคัญคือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ที่คาดว่าจะมีการเดินทางของประชาชนจำนวนมาก ทั้งไปท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนา ส่งผลให้ปริมาณรถบนถนนมีมากแน่นอน ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

      นายพรหมมินทร์ กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนคร่าชีวิตคนไทยวันละ35-50 คน หรือมากกว่า 24,000 คนต่อปี พิการปีละกว่า 5,000 คน และยิ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ปัจจัยความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางถนนย่อมสูงเช่นเดียวกัน ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มดีขึ้น ทำให้ประชาชนอยากพบปะสังสรรค์ ดื่มฉลอง และท่องเที่ยว หลังจากที่มีมาตรการสั่งห้ามมาหลายเดือน จึงกังวลว่าเมื่อมีการดื่มฉลองกันหนักมาก ความเสี่ยงที่จะดื่มแล้วขับ ขาดสติในการขับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ เสียชีวิตยิ่งเพิ่มขึ้น

        นายพรหมมินทร์ กล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ระบุว่า ประเทศไทย ปี 2560 จากผลสำรวจประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป 55.9 ล้านคน ดื่มแอลกอฮอล์ในรอบปีที่แล้วประมาณ 15.9 ล้านคน (ร้อยละ 28) โดยกลุ่มอายุที่ดื่มมากที่สุดคือ 25-44 ปี นอกจากนี้การดื่มเครืองดื่มแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อสุขภาพก่อให้เกิดความพิการและโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคตับ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และเพิ่มโอกาสเสี่ยงเสียชิวิตจากโรคโควิด-19 นอกจากนี้ยังเพิ่มความรุนแรงหากเกิดอุบัติเหตุทางถนนถึง 3 เท่า ซึ่งพบว่าเดือนที่มีการรณรงค์งดเหล้าช่วยลดผู้เสียชีวิตจากการดื่มแอลกอฮอล์ลงอย่างเห็นได้ชัด จึงนับเป็นโอกาสดีที่จะเชิญชวนทุกคนให้ใช้ช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน (6ก.ค.-2ต.ค.63) ลด ละ เลิก อบายมุข หันมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ซึ่งได้ประโยชน์หลายด้าน เช่น มีเงินเหลือ สุขภาพแข็งแรง ได้พักตับ ห่างไกลโรค ครอบครัวอบอุ่น และลดความเสี่ยงอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ จนสามารถเลิกเหล้าได้ตลอดชีวิตในที่สุด

สำหรับวิธีเตรียมตัวงดเหล้า คือ 1. สร้างแรงจูงใจ 2.ตั้งใจจริง 3.รู้จักปฏิเสธให้เป็น 4.หากิจกรรมทำยามว่าง และ5.หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง ทั้งนี้หากมีสงสัยขอคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนเลิกเหล้า 1413 ...

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

         9 ก.ค. 2563 เวลา 10.00 น. สคอ.นำโดย นายกษิดิศ ขันธรัตน์ ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) นำทีมงาน เข้าร่วมศึกษาการดำเนินงานตำบลต้นแบบด้านการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่ รพ.สต. โนนทองอินทร์ อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี โดยมี นายสุมานิตย์ วงษ์ดี ปลัดอบต.โนนทองอินทร์ เป็นประธานในการเรียนรู้ดังกล่าวต.โนนทองอินทร์มีประชากรประมาณ 22,000 คน อุบัติเหตุทางถนนเกิดในจุดเสี่ยงที่มีระยะทางไม่ถึง 3 กม. และอุบัติเหตุที่เกิดเป็นคนนอกพื้นที่แทบทั้งหมด ทางชุมชนจึงวางแผนร่วมกันป้องกันอุบัติเหตุ โดยศึกษาจากพื้นที่ต้นแบบที่ รพ.สต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดร

ทางชุมชนโนนทองอินทร์มีการดำเนินงานโดยเน้น 2 ส. 3 ข. 4 ม.
2 ส. คือ ไม่ฝ่าสัญญาณไฟ ไม่ย้อนศร
3 ข. คือ ต้องมีใบขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ไม่แซงในที่คับขัน
4 ม. คือ มอเตอร์ไซด์ขับขี่ระวัง ใส่หมวกกันน็อคทุกครั้ง ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่ดื่มแล้วขับ

- ในหมู่บ้านมีผ้าป่ายางรถยนต์เพื่อใช้เป็นแนวกั้นถนนในจุดเสี่ยง
- ในพื้นที่ยังมีพระอาจารย์ชื่อดังคือหลวงปู่ศรีที่ช่วยเตือนสติเรื่องเมาแล้วขับ
- ทำงานกับศูนย์เด็กเล็กเพื่อความปลอดภัยทางถนน โดยเน้นความปลอดภัยในกลุ่มเด็กและผู้ปกครอง
- นอกจากนี้ยังมีการเคาะประตูบ้านเพื่อช่วยเตือนเรื่องความปลอดภัยทั้งในและนอกเทศกาลอีกด้วย

การทำงานของโนนทองอินทร์เน้นการทำงานร่วมกันในทุกภาคส่วน ทังหน่วยงานราชการ เช่น รพ.สต. ศปถ. สอ. อบต. / แกนนำชุมชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. / ประชาชนในพื้นที่ และยังมีภาคเอกชน เช่น ร้านค้า เป็นต้น

        เวลา 13.30 น. นายกษิดิศ ขันธรัตน์ ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) และทีมงาน ได้เข้าร่วมศึกษาเรียนรู้ ตำบลต้นแบบเพื่อความปลอดภัยทางถนน ณ รพ.สต.นาข่า อำเภอเมือง อุดรธานี โดยมี คุณสำรวย บุตรธนู รองนายกเทศมตรี เทศบาลตำบลนาข่า และคุณจินตนา สารีบุตร ผอ.รพ.สต.นาข่า และทีมงาน เข้าร่วมให้ความรู้และข้อมูล ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี เคยได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่สีแดงของการเกิดอุบัติเหตุของ จ.อุดรธานี ท้องถิ่น ท้องที่ ส่วนราชการและประชาชน ได้พยายามหาทางออกร่วมกันว่าจะลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ได้อย่างไร จนกระทั่งเกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการทำงานร่วมกัน ในพื้นที่มีการทำงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง- มีการประชุมหาจุดเสี่ยงและความร่วมมือ

-มีข้อตกลงร่วมกันตั้งแต่ระดับครอบครัวจนถึงชุมชน
-เกิดมาตรการชุมชน
-มีกิจกรรมเคาะประตูบ้าน
- อื่นๆ อีกมากมาย

           10 ก.ค. 2563 เวลา 10.00 น. นายกษิดิศ ขันธรัตน์ ผู้จัการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) นำทีมงานลงพื้นที่เพื่อร่วมเรียนรู้การทำงานด้านการลดอุบัติเหตุทางถนนที่ อบต.กุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี โดยมีนายสมดี ธรรมโกลัง นายกอบต.กุดสระ และทีมงานร่วมให้ความรู้

อบต.กุดสระปฏิบัติงานเน้นหนักช่วงเทศกาลเป็นหลัก ผลงานเด่นคือ ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลต่างๆ
- มีการรณรงค์ให้ความรู้
- เคาะประตูบ้าน
- ซ่อมแซมถนนที่ชำรุด
- อื่นๆ

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

         วันที่ 3 ส.ค.63 - ในการประชุมแนวทางการปรับปรุงใช้ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนผ่านเว็บไซต์สาธารณะ www.Thairsc.com จัดโดยบริษัทกลางคุ้มครองผุ้ประสบภัยจากรถ จำกัด เพื่อระดมสมอง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นภาคีที่เกี่ยวข้อง ให้ข้อเสนอแนะที่เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการข้อมูล มี นายนพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ นายกษิดิศ ขันธรัตน์ ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) และภาคีอื่นๆ ร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุม บริษัทกลางคุ้มครองผุ้ประสบภัยจากรถ จำกัด ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
            - เป้าหมายการประชุมเพื่อมุ่งสู่การเป็น Thai RSC 5.0 เน้นการนำเสนอข้อมูลและสถิติ ให้ทันสมัย เข้าใจง่าย โดนใจ ในผู้ใช้งาน 4 กลุ่มที่เกี่ยวข้อง คือ 1. หน่วยงานผู้กำหนดนโยบาย ผู้ขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนระดับประเทศ 2.หน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มีภารกิจด้านความปลอดภัยทางถนน (ส่วนกลาง/จังหวัด/ท้องถิ่น) 3. ปรับปรุงแพลทฟอร์มดิจิตัลด้านอุบติเหตุทางถนน ที่ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งและแก้ไขจุดเสี่ยง และ 4. เพื่อเป็นศูนย์เผยแพร่วิชาการด้านความปลอดภัยทางถนน
           - สำหรับเว็บไซต์ www.Thairsc.com เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหา ข้อมูลรับแจ้งอุบัติเหตุทางถนนรายวันแบบเรียลไทม์ แสดงแผนที่จุดเกิดเหตุบริเวณใกล้เคียง รายงานข้อมูลอุบติเหตุรายใหญ่ สถิติการรับแจ้งอุบัติเหตุ และการใช้สิทธิ์ พ.ร.บ. ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สื่อความรู้ต่างๆ ผู้ที่สนใจและต้องการสืบค้นข้อมูลด้านอุบัติเหตุทางถนน สามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูลได้...

 
0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

        วันที่ 15 ก.ค.63 นายกษิดิศ ขันธรัตน์ ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เข้าร่วมเปิดงานนิทรรศการและการเสวนา “ MOT 2020 Move On Together คมนาคมเคียงข้างคนไทย ฟันเฟืองฟื้นฟูเศรษฐกิจหลัง COVID-19” จัดโดยกระทรวงคมนาคม มี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานพร้อมเผยว่าได้ยึดหลักการบริหารงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี มุ่งเน้นขับเคลื่อนให้เกิดการเดินหน้า ฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจทุกมิติ ซึ่งมีนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูน ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมดิแอทธินี โฮเทลแบงค็อก กรุงเทพฯ
       ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ในประเทศไทย กระทรวงคมนาคมได้มีมาตรการป้องกันและเว้นระยะห่าง เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชน จนขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ขึ้น แต่ต้องไม่ประมาท หากเดินทางต้องระวังป้องกันตนเอง ใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมได้มีการส่งเสริม แนะนำการเดินทางวิถีใหม่ Transport New Normal พร้อมมีข้อปฏิบัติสำหรับผู้โดยสารขนส่งสาธารณะทั้งทางบก ราง น้ำ และอากาศ ดังนี้คือ 1. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า 2. เผื่อเวลาการเดินทางอย่างน้อย 30 นาที 3. แสกน QR Code ไทยชนะ 4. หันมาใช้ตั๋วอิเล็คทรอนิกส์ส่วนบุคคล แทนตั๋วที่มีการสัมผัสร่วม หรือเงินสด 5. ยืนหันหน้าไปทางเดียวกัน เว้เว้นระยะห่าง 30 ซม. 6. ให้ความร่วมมือตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการ 7. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง 8. งดพูดคุยกัน งดคุยโทรศัพท์ 9. ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนและหลังการใช้บริการ นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานกระทรวงคมนาคม นำเสนอข้อมูลโครงการสำคัญที่ดำเนินการก่อร้าง ทั้ง ทางบก ทางอากาศ ทางราง และแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัย

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User
           วันที่ 20 ส.ค.2563 สำนักเครือข่ายลดอุบติเหตุ (สคอ.) เข้าร่วมเวทีสาธารณะ “คดีบอส ยุติธรรมหรือธรรม-ยุติ” จัดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียงร่วมเวทีแลกเปลี่ยน ประกอบด้วย แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง อัยการจังหวัดสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงจังหวัดสุพรรณบุรี นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ดำเนินการเวทีสาธารณะ คาดหวังว่าเวทีสาธารณะที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้จะช่วยกันตามหาความจริงในคดีดังกล่าว จนสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ณ ห้องซิลเวอร์ 3 ชั้น B รร.แกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
           โดยหนึ่งในเวทีเสวนา ได้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายอาสาสมัคร ภายหลังการดื่ม เพื่อพิสูจน์การลดลงของปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายทุกชั่วโมง และยืนยันคนมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 389 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่มีสติขับรถได้จริงหรือ? พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เข้าร่วมเวทีสาธารณะ แสดงความคิดเห็น
            ในเวทีเสวนามีการเสนอให้ปรับแก้ไขกฎหมายอย่างจริงจัง รวมทั้งปรับแก้กระบวนการยุติธรรมใหม่ เพื่ออุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นให้ได้อย่างแท้จริง .. สำหรับข้อคิดเห็นรวมถึงรายละเอียด-ข้อมูลที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ จะรวบรวมสรุปส่งต่อไปยังผู้เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นประโยชน์ประกอบสำนวนคดีต่อไป
0
0
0
s2smodern