Deprecated: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; plgContentGoogleCalendar has a deprecated constructor in /var/www/vhosts/accident.or.th/domains/accident.or.th/public_html/plugins/content/googlecalendar/googlecalendar.php on line 24
เขียนโดย Super User

กรมควบคุมโรค สานพลัง สคอ. ประเมิน DHS-RTI ระดับประเทศ จ.นครราชสีมา

  

     วันที่ 25 ส.ค. 2560 : นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการ สคอ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงาน ป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน DHS-RTI (ระดับประเทศ) และประเมินรับรองทีมป้องกันการบาดเจ็บทางถนน (RTI-team ตำบล/หน่วยงาน) ร่วมกับคณะตรวจเยี่ยม และติดตามการดำเนินงานของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยในช่วงเช้าได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของพื้นที่อำเภอพิมาย อำเภอจักรราช และอำเภอโนนสูง ณ ห้องประชุมพิมายปุระ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา

    

        ในช่วงบ่าย นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการ สคอ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงาน ป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน DHS-RTI (ระดับประเทศ) และประเมินรับรองทีมป้องกันการบาดเจ็บทางถนน (RTI-team ตำบล/หน่วยงาน) ร่วมกับคณะตรวจเยี่ยม และติดตามการดำเนินงานของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของพื้นที่อำเภอปากช่อง ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลปากช่องนานา อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

  

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

ตำรวจหารือร่วมป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนน

  

          วันที่ 28 ส.ค.60 กองบังคับการตำรวจจราจร ประชุมคณะที่ปรึกษา กองบังคับการตำรวจจราจร หารือแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานและระดมภาคีเครือข่ายให้มีส่วนร่วมในการบริหารงานทางด้านการจราจร ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมแสงสิงแก้ว กองบังคับการตำรวจจราจร กรุงเทพฯ ในการนี้ นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ในฐานะที่ปรึกษาฝ่ายเครือข่ายไตรภาคี กองบังคับการตำรวจจราจร ได้เข้าร่วมประชุมและเสนอแนวทางการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนน ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาระบบและโครงสร้างการทำงานเพื่อความต่อเนื่องและยั่งยืน อาทิเช่น การทำงานควรมีระบบคัดกรอง (คน-รถ) – วิเคราะห์จราจรที่เป็นระบบ / ควรพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการขนส่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง / ต้องพัฒนาระบบควบคุม/สั่งการด้วยการใช้เทคโนโลยีจะได้ผลมากกว่าใช้คน / ควรมีการกำกับมาตรฐานรถที่ไม่ปลอดภัย เป็นต้น ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการประชุมได้มีการเยี่ยมชมศูนย์ควบคุมสั่งการจราจร (บก.02) เพื่อดูระบบการทำงาน เชื่อมโยง /สั่งการและควบคุมการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร

   

 

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

สคอ.หนุนโครงการประกวดภาพการ์ตูนเคลื่อนไหว "การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย 2560"

  

      สคอ. ร่วมแถลงข่าวสนับสนุนโครงการประกวดภาพการ์ตูนเคลื่อนไหว "การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย 2560" เพื่อสนับสนุนและรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้ลดลง และเป็นการส่งเสริมกิจกรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายกอบชัย บุญอรณะ รองอธบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมด้วย นายเลิศศักดิ์ นววิมาน นายกสมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา และนายมนต์ชัย ทัพไชย กรรมการมูลนิธิเมาไม่ขับ ณ ห้องประชุม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดุสิต กทม

  


     ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว ผอ.สคอ. กล่าวสนับสนุนโครงการฯ ว่า ขอชื่นชมในการทำงานของทุกฝ่ายโดยเฉพาะสมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย ที่ได้ร่วมกันพัฒนาสื่อแนวใหม่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงบาดเจ็บ -เสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์สูง คือ เด็กและวัยรุ่น ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ขณะเดียวกัน สคอ. จะช่วยสนับสนุนด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อที่มีของ สคอ.ในทุกด้าน และหากได้ผลงานจากการประกวดเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะนำไปประชาสัมพันธ์ต่อไป นอกจากนี้ยังจะนำรายละเอียดการประกวดโครงการฯต่างๆใส่ไว้ในเว็บไซต์ สคอ. เพื่อให้เครือข่ายและผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ต่อไปด้วย
สำหรับโครงการประกวดภาพยนต์การ์ตูนเคลื่อนไหว " การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย 2560" จะเริ่มเปิดรับสมัครผลงานเข้าประกวดของนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ วันที่ 5 กันยายน 2560 จนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 พร้อมจะประกาศและมอบรางวัลกว่า 200,000บาทในเดือนธันวาคม 2560นี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร 02-229-3147 หรือที่ www.tmea.or.th

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

ชับบ์ประกันภัยจับมือ สสส. รณรงค์คาดเข็มขัดนิรภัยแถวหลัง

   

       วันที่ 31 ส.ค.60) ที่โรงแรมเรเนซองส์ กทม. - บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรมการขนส่งทางบก สร้างจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน แถลงข่าวโครงการ “รณรงค์คาดเข็มขัดนิรภัยแถวหลัง” เพื่อสนับสนุนมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก โดยเริ่มประชาสัมพันธ์ผ่านผู้ประกอบการรถแท็กซี่ โดยมี นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)นายจรัญ สอนสวัสดิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค ส านักงาน คณะกรรมการก ากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)นางสาวนิตยา พิริยะธรรมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ และภาคีเครือข่ายให้ความสำคัญกับการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาอุบัติเหตุทางถนนได้คร่าชีวิตคนไทยสูง สาเหตุมาจากการดื่มแล้วขับ การขับเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย รวมถึงการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

   

     โดยมูลนิธิไทยโรดส์ ได้สํารวจอัตราการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารนั่งเบาะตอนหลังในรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ จํานวน 8 จุด ประกอบด้วย เขตราชเทวี เขตบางกอกน้อย เขตคลองเตย และเขตคลองสาน เขตบางนา เขตพระโขนง เขตภาษีเจริญ และเขตราษฎร์บูรณะ โดยเก็บข้อมูลเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลา 07.00 - 17.00 น. ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2560 รวมทั้งสิ้น 3,260 คัน จํานวนผู้โดยสารนั่งเบาะตอนหลัง 3,717 คน พบว่า มีอัตราการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารนั่งเบาะตอนหลังในรถแท็กซี่ เพียง 3 % และไม่คาดเข็มขัดนิภัย สูงถึง 97 %จำแนกเป็น เพศชาย คาดเข็มขัดนิรภัย 4 % ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 96 % ส่วนเพศหญิง คาดเข็มขัดนิรภัย 3% ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 97 % ที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐและทุกภาคส่วนได้มีการกำหนดมาตรการความปลอดภัย เกี่ยวกับการคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างเข้มเข้มและต่อเนื่อง แต่คนส่วนใหญ่ที่เป็นผู้โดยสารยังละเลยและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อย เพราะเข้าใจว่าการนั่งโดยสารรถ ถ้านั่งเบาะหลังน่าจะปลอดภัยกว่านั่งเบาะหน้า หรือหากเป็นการใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถโดยสารสาธารณะ มักคิดว่านั่งไม่นานก็ลง ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว รถที่วิ่งด้วยความเร็ว 60 กม/ชม. หากเกิดอุบัติเหตุจะทำให้คนที่นั่งบนรถพุ่งไปข้างหน้าและเมื่อมีการปะทะคนหรือวัตถุในตัวรถ แรงปะทะจะเทียบเท่ากับการตกตึก 5 ชั้น ส่งผลให้คนที่ไม่คาดเข็มขัดทะลุกระจก ชนเก้าอี้หรือคนที่นั่งอยู่ตอนหน้า ทำให้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงได้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้ขับรถยนต์และผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่รอดตายเพราะคาดเข็มขัดนิรภัย เพราะเข็มขัดนิรภัยสามารถลดความรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ถึง 34-40 % เมื่อเทียบกับการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกที่มีการสำรวจและจัดอันดับการคาดเข็มขัดนิรภัยใน 182 ประเทศทั่วโลก ปรากฏว่า 1 ใน 4 ของประเทศที่สำรวจอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนประเทศไทยได้คะแนน 6 จากคะแนนเต็ม 10 ถือว่ายังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร นางสาวนิตยา พิริยะธรรมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย กล่าวว่า ชับบ์ประกันภัยมีความประสงค์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในสังคมในการผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้โดยสารรถยนต์ โดยดำเนินการรณรงค์ปลุกจิตสำนึกผ่านสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ อาทิ สติ๊กเกอร์ ป้ายติดกระจกรถยนต์ โปสเตอร์ สปอตวิทยุ โดยเริ่มรณรงค์ในกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ด้วยการติดสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งในตัวรถและนอกรถ เพื่อให้เกิดการรับรู้และนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการคาดเข็มขัดนิรภัยแถวหลัง โดยจะรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการรับรู้และตระหนักถึงอันตรายจากการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จนเกิดความเคยชินจนติดเป็นนิสัย เหมือนกับการคาดเข็มขัดนิรภัยแถวหน้า เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้โดยสารเอง นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก ได้กำหนดให้รถส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะตามกฎหมายต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย ส่วนผู้โดยสาร หากมีผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามนำรถออกจากสถานีขนส่งหรือจุดจอด เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว สำหรับบทลงโทษตามกฎหมายจราจรทางบกฯ หากผู้ขับหรือผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะ รถแท็กซี่ จะโดนปรับคนละไม่เกิน 500 บาท แต่หากเป็นรถโดยสารขนาดใหญ่ รถตู้โดยสาร รถทัวร์ รถบรรทุกสินค้า คนขับถูกปรับไม่เกิน 500 บาท ส่วนผู้โดยสารถูกปรับไม่เกิน 5,000 บาท  

0
0
0
s2smodern
เขียนโดย Super User

   พิธีลงนาม MOU ข้อตกลงความร่วมมือด้านข้อมูลเพื่อประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางถนนและเหตุสาธารณภัย ระหว่างกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้สบภัยจากรถ จำกัด

  

 

      วันที่ 8 กย.60 ณ ห้องประชุม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดุสิต กทม- สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนาม MOU ข้อตกลงความร่วมมือด้านข้อมูลเพื่อประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางถนนและเหตุสาธารณภัย ระหว่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดย นายนพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และ นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจะให้ความร่วมมือกันด้านบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ สถานที่ วิชาการ สถิติ ข้อมูล และปัจจัยอื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งนี้ บ. กลางฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับแจ้งเหตุ ประสานการช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาการใช้สิทธิ์เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางถนน

   

      ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยจากรถสามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลการเบิกประกัน พ.ร.บ. หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.rvp.co.th หรือ Call Center 1791 ตลอด 24 ชั่วโมง

0
0
0
s2smodern