Deprecated : Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; plgContentGoogleCalendar has a deprecated constructor in
/var/www/vhosts/accident.or.th/domains/accident.or.th/public_html/plugins/content/googlecalendar/googlecalendar.php on line
24
เผยแพร่เมื่อ: 14 มีนาคม 2562
เขียนโดย Super User
12 เป้าหมายโลกสำหรับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนน
เผยแพร่เมื่อ: 10 มิถุนายน 2562
เขียนโดย Super User
เรียนเชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 14
เรื่องความปลอดภัยทางถนน เดิน ขี่ ขับ ไป-กลับ ปลอดภัย Play Your Part and Share the Road
สำหรับท่านที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.roadsafetythai.org/all_news-all-news.html
เผยแพร่เมื่อ: 18 สิงหาคม 2562
เขียนโดย Super User
วันที 18 ส.ค. 62 จากกรณีอุบัติเหตุใหญ่เมื่อช่วงเวลา 4.15 น.ที่ผ่านมาของวันนี้ ได้เกิดเหตุรถตู้ชนประสานงานกับรถบรรทุกพ่วงบริเวณทางหลวงหมายเลข 317 ตรงข้ามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาย่อยวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว มีเสียชีวิต 11ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งรถตู้คันดังกล่าวเป็นของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่รับจ้างนำพาแรงงานต่างด้าวชาวลาวไปต่ออายุพาสปอร์ต ซึ่งจาการสอบสวนพบข้อมูลว่าลักษณะคนรถตู้ขับรถส่ายไปส่ายมาก่อนเกิดเหตุ พบมีรอยเบรคยาวและได้พุ่งชนประสานงานกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถตู้บาดเจ็บและชีวิตดังกล่าว นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เหตุการณ์ ดังกล่าวสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูง 11 ศพ ต้องขอแสดงเสียใจอย่างยิ่ง ซึ่งแม้อุบัติเหตุครั้งนี้จะไม่ได้เกิดกับชีวิตคนไทยแต่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวลาวก็ตาม แต่ก็เป็นการสูญเสียเช่นเดียวกันเพราะไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดแต่มาเกิดเหตุ บาดเจ็บ เสียชีวิตที่ประเทศไทย ก็ทำให้รู้สึกไม่ดี เพราะนั่นหมายถึงการไม่มีความปลอดภัยในการเดินทาง นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลรายงานอุบัติเหตุ คาดว่ารถตู้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เพราะมีรอยเบรคเป็นทางยาว ประกอบกับสภาพถนนอยู่ระหว่างการปรับปรุง ซ่อมแซม เรื่องนี้ก็ต้องไปดูว่ามีป้ายสัญญาณเตือน ไฟส่องสว่างเห็นชัดหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้มองไม่เห็นหรือหลบอะไรบางอาจทำให้รถเสียหลัก หรือคนขับรถตู้มีอาการหลับใน เหนื่อยล้าจากความเร่งทำรอบหรือไม่ ต้องไปสืบสวนจากบริษัทต้นสังกัดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง “ สิ่งที่จะต้องค้นหากันต่อคือตัวคนขับ ใบอนุญาต ประวัติการกระทำความผิด รถอายุกี่ปี การตรวจสภาพ รถป้ายเหลืองมีการขออนุญาตข้ามเขตหรือไม่ รวมถึงได้มีการติดตั้ง GPS ตามระเบียบ และมีการเปิดใช้งานหรือไม่ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบค้นหาความจริงให้ปรากฏจะได้เร่งหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย สร้างความสูญเสียเช่นนี้อีกต่อไป” นายพรหมมินทร์ กล่าว
เผยแพร่เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2562
เขียนโดย Super User
วันที่ 28 ก.ค.62 จากกรณีที่มีผู้ขี่รถบิ๊กไบค์ อายุ 37 ปี ลูกชายค่ายเพลงดังพุ่งชนราวเหล็กกั้นสะพาน คอขาดจากร่างเสียชีวิต เป็นกระแสข่าวดัง สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นและอีกกรณีล่าสดคือ 2 หนุ่มขี่บิ๊กไบค์พุ่งชนป้ายข้างทางเสียชีวิตใกล้มหาวิทยาลัยย่านลาดกระบัง กทม. ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้ประสบเหตุทั้ง 2 กรณี แต่อยากฝากเตือนไปยังทุกครอบครัว โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่กำลังคิดจะใช้รถจักรยานยนต์ จริงอยู่ที่รถบิ๊กไบค์มีประมาณการใช้น้อยกว่ารถจักยานยนต์ทั่วไป แต่จำนวนรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุภาพรวมสูงถึงร้อยละ 80 ส่วนคนเดินเท้าร้อยละ10 และรถจักรยานร้อยละ 1 โดยรถบิ๊กไบค์ก็อยู่รวมในประเภทรถจักยานยนต์นั้นอัตราการเกิดอุบัติเหตุไม่ค่อยสูงมากนัก แต่มีความร้ายแรงไม่น้อยไปกว่ารถประเภทอื่น นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า รถบิ๊กไบค์ไม่เหมาะสมกับถนนที่มีความเสี่ยงตลอดสองข้างทาง เนื่องจาก 1.บิ๊กไบค์มีขนาดใหญ่ ต้องการการทรงตัวสูง หากนำมาใช้ในเมืองที่มีอุโมงค์ มีสะพาน ทางโค้ง ถือว่าอันตรายมาก รถบิ๊กไบค์เหมาะสมกับถนนประเภทแยกเลน 2. การขี่รถที่ต้องใช้ความเร็วสูงไม่สามารถใช้ได้จริง เพราะถนนไม่ได้ออกแบบไว้จะเห็นได้จากการมีราวกั้น ทางโค้ง ตลาด ไม่เหมาะกับรถบิ๊กไบค์มาใช้ 3. ต้องมีทักษะการขับขี่สูง มีความชำนาญ ผ่านการฝึกฝน และมีการใช้เบรกที่ถูกต้อง เพราะจะส่งผลต่อการทรงตัวของรถ 4.รถขนาดใหญ่ มีขนาดปริมาณซีซีมาก หากนำมาขับบนถนนที่มีขอบทาง มีกันชนที่มีระยะห่างจากถนนแค่ 1 เมตร มีโอกาสสูงที่อุปกรณ์รถ เช่น ที่พักเท้า ที่เหยียบ ขาตั้ง จะเกี่ยวและกระแทกไหล่ทางสูงมาก ทำให้รถพลิกคว่ำได้ “ ขอฝากไปยังเด็กและเยาวชน ลูกหลานทุกท่าน ที่คิดจะใช้รถจักรยานยนต์ทุกประเภท อยากให้รู้ว่าความรู้สึกของพ่อแม่ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องออกไป ให้เข้าใจว่าพ่อแม่ รักและห่วงใย อยากให้ลูกปลอดภัย และคุณในฐานะลูกได้ใส่ใจพ่อแม่มากน้อยแค่ไหน” นายพรหมมินทร์ กล่าว ทั้งนี้ อยากเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมและเข้มงวดให้มากขึ้น ซึ่งกฎหมายควบคุมความเร็วก็มีอยู่แล้ว แต่ยังขาดการบังคับใช้จริงจัง หรือนำเทคโนโลยีที่ออกแบบเหมาะสมกับการตรวจจับความเร็วรถจักรยายนต์มาบังคับใช้ร่วมกับรถใหญ่บนถนน นอกจากนี้อยากเสนอให้ผู้ที่จะใช้รถบิ๊กไบค์ควรเป็นผู้ที่มีทักษะ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและมีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะจะมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจสูงกว่า จะทำให้เกิดความปลอดภัยภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
เผยแพร่เมื่อ: 25 กันยายน 2562
เขียนโดย Super User
⯑ เชิญผู้สนใจ ร่วมงานสัปดาห์ประกันภัย THAILAND INSURANCE EXP0 2019 ⯑ ⯑ พบกับนิทรรศการความรู้ / การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัย และการเงิน⯑ ห้ามพลาด !! 27-29 กันยายน 2562 ณ ฮออล์ 5 อิมแพค เมืองทองธานี พบกับ....⯑ การจำหน่ายหมวกนิรภัย ในโครงการ รัฐ-ราษฏร์รวมใจ ขับขี่ปลอดภัยเทิดไท้ในหลวง สีเหลืองสวยมาก⯑ ราคาใบละ 100.- บาทเท่านั้น ให้สิทธิ์ 1 คนต่อ 1 ใบ⯑ ...สนใจพบกันที่บูธ บริษัทกลางคุ้มคลองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด